ส่งเสริมการละเล่นเด็กไทย โรงเรียนโคกงามวิทยาคาร (ขอนแก่น)
ควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
2562
คะแนน:
1
2
3
4
5
คะแนน:
1
2
3
4
5
check_circleแผนงานกิจกรรมทางกาย
คะแนน:
1
2
3
4
5
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาด | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในเด็กและวัยรุ่น ร้อยละของเด็กและวัยรุ่นอายุ 5-17 ปี ที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ (ระดับปานกลางถึงมาก อย่างน้อยที่สุด 60 นาทีต่อวัน) |
65.00 | 80.00 |
2 | เพิ่มการสัญจรของเด็กและวัยรุ่น (อายุ 5-17 ปี)โดยการเดินหรือใช้จักรยานในชุมชน ร้อยละของเด็กและวัยรุ่น (อายุ 5-17 ปี)ในชุมชนที่สัญจรโดยการเดินหรือใช้จักรยาน |
70.00 |
คะแนน:
1
2
3
4
5
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) |
---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |
ปฐมวัย (0-5 ปี) | |
วัยเรียน (6-12 ปี) | 128 |
วัยรุ่น (13-15 ปี) | |
เยาวชน (15-20 ปี) | |
วัยทำงาน | |
ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |
ผู้พิการ | |
ผู้หญิง | |
มุสลิม | |
พระภิกษุ | |
ชาติพันธุ์ | |
ผู้ต้องขัง | |
หลากหลายทางเพศ (LGBTIQ) | |
กลุ่มด้อยโอกาส (คนไร้บ้าน, เด็กเร่ร่อน, เด็กกำพร้า, เด็กในสถานพินิจ ฯลฯ) | |
แรงงานข้ามชาติ | |
อื่น ๆ |
คะแนน:
1
2
3
4
5
16 พฤษภาคม 2562
30 กันยายน 2562
คะแนน:
1
2
3
4
5
กิจกรรมที่ 1 ประชุม วางแผนคณะครู เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับประถมศึกษา 8 กลุ่มสาระ คัดเลือกผู้รับผิดชอบ
ชื่อกิจกรรม
ประชุม วางแผนคณะครู เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับประถมศึกษา 8 กลุ่มสาระ คัดเลือกผู้รับผิดชอบวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
ประชุม วางแผนคณะครู เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในระดับประถมศึกษา 8 กลุ่มสาระระยะเวลาดำเนินงาน
17 มิถุนายน 2562 ถึง 1 กรกฎาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
มีคณะครูผู้รับผิดชอบในกลุ่มสาระ ร่วมกันวางแผนการจัดการเรียนรู้ในแต่ละกลุ่มสาระทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม/ เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 2 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
ชื่อกิจกรรม
จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ระยะเวลาดำเนินงาน
8 กรกฎาคม 2562 ถึง 12 กรกฎาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
แผนกา่รเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
-กิจกรรมที่ 3 ดำเนินการจัดพื้นที่ที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรม
ชื่อกิจกรรม
ดำเนินการจัดพื้นที่ที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
ดำเนินการจัดพื้นที่ที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรม แต่ละกิจกรรม เช่นบริเวณสนามฟุตบอล บริเวณหน้าเสาธง บริเวณหอประชุมโรงเรียน ภายในห้องเรียน
ระยะเวลาดำเนินงาน
15 กรกฎาคม 2562 ถึง 19 กรกฎาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
มีพื้นที่ที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 4 การทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้และจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์
ชื่อกิจกรรม
การทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้และจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1. เชือกในล่อน2 กิโลกรัมจำนวนเงิน 1000 บาท2. เชือกปอมะนิลา จำนวน2000 บาท
3. ผ้าขนหนู15 ผืนๆละ 80 บาทจำนวน 1200บาท
4. สีน้ำมัน 2 กระป๋องจำนวนเงิน 1500 บาท
5. ตะปู 2 นิ้วจำนวนเงิน 200 บาท
6. อาหารว่าง/น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ/นมอาหารว่าง/น้ำดื่มเพื่อสุขภาพ/นม จำนวนเงิน 12800 บาท
7. ค่าถ่ายเอกสาร 2000บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
22 กรกฎาคม 2562 ถึง 26 กรกฎาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนมีอุปกรณืเพียงพอในการทำกิจกรรมการละเล่นไทยทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
กิจกรรมที่ 5 ประชุมชี้แจงนักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ
ชื่อกิจกรรม
ประชุมชี้แจงนักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมโครงการวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
ประชุมชี้แจงนักเรียนทุกคน ในช่วงอายุ 6-15 ปี จำนวน 128 คนระยะเวลาดำเนินงาน
29 กรกฎาคม 2562 ถึง 31 กรกฎาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในโครงการ/กิจกรรมที่จัดขึ้นทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 6 การละเล่นของเด็กไทย "รีรีขาวสารและงูกินหาง"
ชื่อกิจกรรม
การละเล่นของเด็กไทย "รีรีขาวสารและงูกินหาง"วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1)การละเล่นรีรีข้าวสารขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
วิธีเล่นรีรีข้าวสาร
1. ผู้เล่น 2 คนยืนหันหน้าเข้าหากันโน้มตัวประสานมือกันเป็นรูปซุ้ม
2. ส่วนผู้อื่นเกาะเอวต่อ ๆ กันตามลำดับ
3. หัวแถวจะพาลอดใต้ซุ้มมือพร้อมกับร้องบทร้องประกอบการเล่น
4. เมื่อร้องถึงประโยคที่ว่า “คอยพานคนข้างหลังไว้” ผู้ที่ประสานมือเป็นซุ้มจะลดมือลงกันคนสุดท้ายไว้ ซึ่งคนสุดท้ายจะถูกคัดออกไปจากแถว แล้วจึงเริ่มต้นเล่นใหม่ทำเช่นนั้นจนหมดคน
เพลงร้องประกอบ
รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก
เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว้
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียน
2) การเล่นงูกินหาง
ขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
วิธีเล่น
การเล่นงูกินหางไม่มีอุปกรณ์การเล่นใด ๆ สามารถเล่นได้ทุกโอกาสจะมีเล่นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนมากผู้ใหญ่จะเล่นในเทศกาลสำคัญ เช่น สงกรานต์ ส่วนเด็ก ๆ จะเล่นทุกโอกาสที่เด็ก ๆ รวมกันซึ่งมีวิธีการเล่นดังนี้ เริ่มเล่นเมื่อผู้เล่นพร้อมกันแล้วจะเริ่มด้วยการเสี่ยงถ้าใครแพ้คนนั้น ก็จะออกเป็นพ่องู ส่วนผู้ชนะก็จะได้เล่นเป็นแม่งูและลูกงูส่วนมากในกลุ่มผู้เล่นจะเลือกเอาคนที่มีร่างกายแข็งแรงหรือรูปร่างใหญ่ในทีม เป็นแม่งู เพื่อเอาไว้ป้องกันลูกงู เมื่อได้ผู้เล่นแล้วพ่องูและแม่งูจะยืนหันหน้าเข้าหากัน ส่วนแม่งูจะมีลูกงูกอดเอวต่อแถวไปข้างหลังแล้วพ่องูจะเริ่มถามแม่งูว่า
พ่องู “แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน”
แม่งู “กินน้ำบ่อโสกโยกไปโยกมา” พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา
พ่องู “แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน”
แม่งู “กินน้ำบ่อหินบินไปบินมา” พร้อมแสดงอาการบินไปบินมา
พ่องู “แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน”
แม่งู “กินน้ำบ่อทรายย้ายไปย้ายมา” พร้อมแสดงอาการส่ายตัวไปมา
พ่องู “กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว”
เมื่อ พ่องูกล่าวเสร็จพ่องูจะเริ่มไล่จับลูกงูที่กอดเอวแม่งูอยู่ส่วนแม่งูก็จะ พยายามป้องกันไม่ให้พ่องูไปแย่งลูกงูได้ เมื่อพ่องูจับลูกงูคนใดได้ลูกงูก็จะออกมายืนอยู่ต่างหากเพื่อรอเล่นรอบต่อไป ส่วนพ่องูจะพยายามแย่งลูกงูให้ได้หมดทุกตัวจึงจะถือว่าจบการเล่นรอบหนึ่ง เมื่อพ่องูจับลูกงูได้ทุกตัวแล้วก็จะเริ่มเล่นใหม่ โดยพ่องูคนเดิมจะกลับไปเป็นแม่งูในรอบต่อไป
คุณค่า/แนวคิด/สาระ
1. ให้ความสนุกสนานในกลุ่มผู้เล่น
2. ฝึกให้เกิดความสามัคคีในกลุ่มผู้เล่น
3. ฝึกฝนการต่อสู้และการหลบหลีกภัยที่จะเกิดกับตน
4. ฝึกการทำงานเป็นกลุ่มตั้งแต่วัยเด็ก
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียน
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 สิงหาคม 2562 ถึง 2 สิงหาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนร้อยละ 95 ได้ออกกำลังกายในกิจกรรมการละเล่นของเด็กไทย"รีรีขาวสารและงูกินหาง"ทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 7 การละเล่นของเด็กไทย"มอญซ่อนผ้าและเดินกะลา
ชื่อกิจกรรม
การละเล่นของเด็กไทย"มอญซ่อนผ้าและเดินกะลาวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1)การละเล่นมอญซ่อนผ้าขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
อุปกรณ์
ผ้าเช็ดหน้าขนาดใหญ่หนึ่งผืน ไม่ต้องขมวดหรือพันให้เป็นเกลียว เพราะถ้าฟาดถูกผู้ใดเข้าแล้วจะเจ็บ
วิธีเล่น
ขั้นที่ 1 ให้ผู้เล่นทั้งหมดจับไม้สั้นไม้ยาว ผู้ที่ได้ไม้สั้นที่สุด ถือผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้แล้วออกไปยืนข้างนอก ที่เหลือนอกนั้นนั่งกันเป็นวงกลม หันหน้าเข้าหากัน ในระยะห่างกันประมาณ ๑ ศอก เอามือทั้งสองพาดไว้ที่ตัก คุยกันหรือร้องเพลงก็ได้ เพื่อความรื่นเริง
ขั้นที่ 2 ให้ผู้ถือผ้าบังตัวไว้มิให้ผู้นั่งเห็นได้ถนัด แล้วเดินหรือวิ่งไปรอบๆ วงต้องทำท่าหรือหน้าตาให้สนิท เดินบ้างวิ่งบ้าง ทำเป็นวางผ้าแต่ไม่วาง เพื่อหลอกล่อผู้ที่นั่งให้เผลอตัวเมื่อเห็นเป็นโอกาสแล้วก็แอบหย่อนผ้าลงไว้ ใกล้หลังผู้นั่งคนใดคนหนึ่ง เมื่อวางผ้าแล้วควรเดินหรือวิ่งให้เร็วต่อไปเพื่อกลับถึงที่เดิมโดยมิให้ผู้ นั้นต้องรู้ตัว
ขั้นที่ 3 ถ้าผู้ถูกวางผ้าข้างหลังรู้สึกตัวเสียก่อนผู้วางผ้ามาถึง ก็ต้องรีบฉวยผ้าวิ่งมานั่งแทนที่ของตนได้ แล้วจึงเดินหาโอกาสวางผ้าไว้ข้างหลังผู้หนึ่งผู้ใดต่อไป แต่ถ้าถูกวางข้างหลังไม่รู้สึกตัว จนผู้ที่วางวิ่งมาถึงก็หยิบผ้าที่วางนั้นขึ้นฟาดผู้ถูกวางจนกว่าจะลุกขึ้น รับผ้าออกเดิน ผู้วางจึงลงนั่งแทนที่
ข้อระวังในการเล่น ผู้นั่งทุกคนจะหันหน้าไปดูข้างหลังไม่ได้ ถ้าหากสงสัยว่าจะมีผ้าอยู่ข้างหลังตนหรือไม่ก็ให้ใช้มือคลำดูเท่านั้น ผู้ถือต้องวางผ้าลงข้างหลังให้ใกล้ตัวผู้นั่ง จะวางเกินกว่า ๑ ศอกไม่ได้และให้วิ่งหรือเดินต่อไปข้างหน้าจนบรรจบรอบ จะหันหลังเดินย้อนมาไม่ได้
เพลงประกอบการเล่น
มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลังใครเผลอคอยระวัง ใครเผลอคอยระวัง ตุ๊กตาอยู่ข้างหลังระวังจะถูกตี”
คุณค่า/แนวคิด/สาระ
1. เพื่อหัดให้ผู้เล่นเป็นคนว่องไว
2. เพื่อฝึกให้ผู้เล่นเป็นคนที่มีไหวพริบและรู้จักสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ
สถานที่ บริเวณหอประชุม
1)การละเล่นเดินกะลา
ขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
วิธีการเล่นเดินกะลา
ให้ขีดเส้นชัย โดยห่างจากเส้นเริ่มต้น 3 เมตรหรือ 5 เมตรหรือตามแต่จะตกลงกัน ผู้เล่นจะต้องขึ้นไปยืนบนกะลาที่คว่ำลงทั้งสองซีก ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้คีบหนีบเชือกไว้ มือจับเชือกดึงให้ถนัด เริ่มเล่นโดยการให้ทุกคนเดินจากเส้นเริ่มต้นแข่งขันกัน ใครที่ถึงเส้นชัยก่อนก็ชนะ หรือถ้าไม่เล่นแบบแข่งขันกัน ก็ใช้เล่นเดินในสวน หรือที่สนามก็ ใช้ออกกำลังกาย ก็เป็นการเล่นที่สนุกอีกแบบนึง
สถานที่ บริเวณหน้าเสาธง
ระยะเวลาดำเนินงาน
5 สิงหาคม 2562 ถึง 9 สิงหาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนเกิดความสนุกเพลิดเพลิน, เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และเป็นการฝึกการทรงตัวอีด้วย การเดินกะลาไม่จำกัดจำนวนฝึกการทรงตัว พัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย และสนุกสนานเพลิดเพลินทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 8 การละเล่นของเด็กไทย"ม้าก้านกล้วยและชักเย่อ"
ชื่อกิจกรรม
การละเล่นของเด็กไทย"ม้าก้านกล้วยและชักเย่อ"วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1) การละเล่นม้าก้นกล้วยขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
1.วิธีทำม้าก้านกล้วยก็ไม่ยาก เลือกตัดใบกล้วยออกมาแล้วเอามีดเลาะใบกล้วยออก แต่เหลือไว้ที่ปลายเล็กน้อยให้เป็นหางม้า เอามีดฝานแฉลบด้านข้างก้านกล้วยตรงโคนบาง ๆ เพื่อทำเป็นหูม้า แล้วหักก้านกล้วยตรงโคนหูม้าออก จากนั้นก็นำแขนงไม้ไผ่มาเสี้ยมปลายให้แหลม ความยาวประมาณคืบกว่า ๆ เสียบหัวม้าที่พับเอาไว้จนทะลุไปถึงก้าน เพื่อให้เป็นสายบังเหียนผูกปากกับคอม้านั่นเอง เสร็จแล้วก็นำเชือกกล้วยมาผูกด้านหัวม้าและหางม้า ทำเป็นสายสะพายบ่า แค่นี้ก็ได้ม้าก้านกล้วยไปสนุกกับเพื่อน ๆ แล้ว
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอล
2)การละเล่นชักเย่อ
ขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส.
อุปกรณ์
1. เชือกที่ใช้ดึงต้องยาวอย่างน้อย33.50ม. เส้นรอบวงเชือกต้องไม่ต่ำกว่า 10ซม. แต่ไม่เกิน 12 – 50ซม.
2. ตรงกึ่งกลางของเชือกทาสีแดงให้เห็นชัดเจน จากจุดสีแดงนับไปทางซ้าย 4 เมตร ทางขวา 4 เมตรแล้วทาสีขาวเอาไว้ฝ่ายใดดึงให้สีขาวของอีกฝ่ายหนึ่งมาถึงจุดเริ่มต้นการแข่งขัน จะเป็นผู้ชนะ
(ตรงจุดสีแดงของเชือกตีเส้นเป็นจุดเริ่มต้นไว้ที่สนาม )
3. ตำแหน่งที่ผู้เล่นใช้มือจับเชือกต้องห่างจากจุดสีขาวอย่างน้อย 1 เมตร ดังนั้นตรงจุดที่ห่าง
จากสีขาว 1 เมตร จะต้องทำเครื่องหมายสีน้ำเงินเอาไว้ให้เห็นชัดเจนใครจะจับตรงจุดไหนก็ได้
แต่ต้องไม่ใกล้จุดสีขาวน้อยกว่า 1 เมตร
วิธีเล่น
แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่ายฝ่ายละกี่คนก็ได้ ตามแต่จะตกลงกัน เมื่อแบ่งพวกได้แล้วก็ขีดเส้นแบ่งแดน หัวแถว(ถ้าเป็นชายเรียกพ่อหลัก ถ้าเป็นหญิงเรียกแม่หลัก)ของทั้งสองฝ่ายเหยียดแขนจับไม้ยึดแนวขนานกับมือ ทั้งสองมือ ไม้จะนอนขนานกับเส้นแบ่งแดน ลูกน้องของแต่ละฝ่ายเกาะเอวหัวแถวเรียงต่อๆกัน เริ่มเล่นต่างฝ่ายพยายามดึงให้ฝ่ายตรงข้ามหลุดล้ำเข้ามาในแดนตน ฝ่ายใดหลุดล้ำถือเป็นฝ่ายแพ้ เมื่อแพ้ทั้งสองฝ่ายก็จะเริ่มต้นเล่นเพลงระบำกัน พอจบก็เริ่มชักเย่อกันใหม่
คุณค่า/แนวคิด/สาระ
ในอดีตกิจกรรมที่สามารถเป็นสื่อชักนำให้หนุ่มสาวได้มาพบกันก็คือ งานบุญและการละเล่นหลังทำบุญการเล่นชักเย่อก็เช่นกัน ทำให้หนุ่มสาวได้พบหน้าเกี้ยวพาราสีและสนุกสนานด้วยกัน แต่ปัจจุบันคนหนุ่มสาวมีโอกาสพบกันโดยไม่มีข้อจำกัด
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอล
ระยะเวลาดำเนินงาน
13 สิงหาคม 2562 ถึง 16 สิงหาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนเกิดความสนุกเพลิดเพลิน, เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และเป็นการฝึกการทรงตัวอีด้วย การเดินกะลาไม่จำกัดจำนวนฝึกการทรงตัว พัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย และสนุกสนานเพลิดเพลินทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 9 การละเล่นของเด็กไทย"วิ่งขาโถกเถกและตีจับ"
ชื่อกิจกรรม
การละเล่นของเด็กไทย"วิ่งขาโถกเถกและตีจับ"วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1)การละเล่นขาโถกเถกขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส
อุปกรณ์และวิธีก่ีเล่น
อุปกรณ์ ไม้ไผ่กิ่ง 2 ลำ ถ้าไม่มีก็เจาะรูแล้วเอาไม้อื่นๆ สอดไว้เพื่อให้เป็นที่วางเท้าได้
วิธีการเล่น ผู้เล่นจะเลือกไม้ไผ่ลำตรง ๆ ที่มีกิ่ง ๒ ลำที่กิ่งมีไว้สำหรับวางเท้าต้องเสมอกันทั้ง 2 ข้าง ผู้เล่นขึ้นไปยืนบนแขนงไม้เวลาเดินยกเท้าข้างไหนมือที่จับลำไม้ไผ่ก็จะยกข้างนั้น ส่วนมากเด็ก ๆ ที่เล่นมักจะมาแข่งขันกัน ใครเดินได้ไวและไม่ตกจากไม้ถือว่าเป็นผู้ชนะ
2)การละเล่นตีจับ
ขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส
1.วิธีเล่นตีจับ:
แบ่งเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆกัน และจับไม้สั้นไม้ยาวว่าใครจะเริ่มตี่ก่อน ฝ่ายที่ตี่ก่อน เริ่มเล่นโดยเลือก พวกของตนคนหนึ่งเป็นคนเข้าไปตี่ คนตี่จะออกเสียง ตี่..หรือ หึ่ม...” เข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้าม ในขณะ เดียวกันฝ่ายตรงข้ามต้องคอยยึดตัวไม่ให้กลับเข้าแดนของตนได้ จนกว่าจะขาดเสียงผู้นั้นต้องมาเป็นเชลย ของฝ่ายตรงข้าม
แต่ถ้าสามารถหนีกลับเข้าแดนตนได้ คนที่ถูกแตะจะกี่คนก็ตามต้องไปเป็นเชลยสลับกัน เมื่อมีฝ่ายของตนเป็นเชลย ผู้ที่ตี่คนต่อไปต้องพยายามช่วยพวกของตนกลับมาให้ได้ ฝ่ายตรงข้ามต้อง คอยกันไม่ให้แตะกันได้ ถ้าแตะกันได้เชลยจะได้กลับแดนของตน เล่นกันเช่นนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหมด ตัวผู้เล่นก่อน ฝ่ายชนะมีสิทธ์จะให้ฝ่ายแพ้ทำอะไรก็ได้
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอล
ระยะเวลาดำเนินงาน
19 สิงหาคม 2562 ถึง 23 สิงหาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
1. ฝึกให้เด็กๆมีความสามัคคีในการทำงานเป็นทีม ในการที่ต้องร่วมแรงร่วมใจในการพยายามช่วยให้เพื่อนในกลุ่มหลุดพ้นจากการเป็นเชลย2. ฝึกให้รู้จักคิด วางแผนและแก้ปัญหา
3. เป็นการออกกำลังกายโดยตรง เพราะขณะที่เล่นนั้นเด็กได้เคลื่อนไหวทุกส่วน และช่วยให้ปอดแข็งแรง เพราะในขณะที่เป็นคนตี่นั้น ต้องกลั้นหายใจร้องตี่อยู่ตลอดเวลา
4. เด็กได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลิน อารมณ์ดี จิตใจเบิกบาน
ทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 10 การละเล่นของเด็กไทย "เรือบกและวิ่งเปรี้ยว"
ชื่อกิจกรรม
การละเล่นของเด็กไทย "เรือบกและวิ่งเปรี้ยว"วัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
1)การละเล่นเรือบกขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส
วิธีเล่น เรือบก
1. ผู้ลงเล่นเรือแข่งยืนคร่อมท่อพีวีซี
2. ผู้เล่นเรือบกออกวิ่งไปพร้อมกันโดยให้วิ่งในสนามและจับเวลา
๓. เรือบกลำที่ชนะเลิศต้องชนะ ๒ เที่ยว ในกำหนด ๓ เที่ยวซึ่งเป็น กติกาเดียวกับการแข่งขันเรือยาวทั่วไป
๔. ความสนุกสนานในการแข่งเรือบกอยู่ที่ผู้แข่งขันเรือบกในแต่ละลำ จะต้องวิ่งโดยพร้อมเพียงกัน ซึ่งถ้าผู้เข้าแข่งขันคนใดเสียจังหวะ หรือไม่พร้อมกับคนอื่นๆ เรือบกก็จะพามาล้มแล้วทุกคนต้องวิ่งจนกว่าจะถึงเส้นชัย
จำนวนผู้เล่น ๕ คน ๗ คน หรือ ๑๐ คน
การแต่งกาย ชุดพละ หรือชุดวอร์ม รองเท้าผ้าใบ
2)การละเล่นเรือบก
ขั้นนำ
การทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการทำกิจกรรม ตามโปรแกรมของ สสส
วิธีการเล่นวิ่งเปี้ยว
1. เราจะแบ่งผู้เล่นทั้งหมดออกเป็นสองฝ่าย โดยจะแต่ละฝ่ายจะมีผู้เล่นประมาณ 5-15 คน ไม่ควรมากหรือน้อยไปกว่านี้ เพราะอาจจะทำให้การแข่งขันไม่สนุกเท่าที่ควรหากผู้เล่นน้อยหรือมากไป
2. เตรียมหลักหรือกรวยเป็นเขตแบ่งสำหรับแต่ละทีมห่างกันประมาณ 8-10 เมตร
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอล
3. ให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต่อแถวกันที่หลักหรือกรวยของฝ่ายตนเองห้ามเกินไปจากหลักหรือกรวย และให้คนที่วิ่งคนแรกถือผ้าเพื่อไว้สำหรับตีหรือสัมผัสฝ่ายตรงข้าม
4. ให้วิ่งออกจากด้านขวามือของฝ่ายตัวเองแล้ววิ่งไปให้เร็วที่สุดและตีผ้าใส่ฝ่ายตรงข้ามหากยังไม่ได้เมื่อครบรอบให้ส่งผ้าให้ทีมเราหลังจากวิ่งกลับมาถึงที่หลักของเรา แล้วคนที่รับผ้าต่อก็จะวิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งวิ่งเร็วจนสามารถนำผ้าไปตีอีกฝ่ายได้ ฝ่ายที่ตีผ้าได้ก็จะเป็นฝ่ายชนะ
สถานที่ บริเวณสนามฟุตบอล
ระยะเวลาดำเนินงาน
26 สิงหาคม 2562 ถึง 30 สิงหาคม 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนเกิดความสนุกเพลิดเพลิน, เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และเป็นการฝึกการทรงตัวอีด้วย การเดินกะลาไม่จำกัดจำนวนฝึกการทรงตัว พัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย และสนุกสนานเพลิดเพลินทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
วัดศรีพนาวาส บ้านโคกงาม / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกงาม/เทศบาลตำบลโคกงามกิจกรรมที่ 11 สรุป ประเมินผล และรายงานผล
ชื่อกิจกรรม
สรุป ประเมินผล และรายงานผลวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
ให้นักเรียนตามแบบสอบถาม และสังเกตพฤติกรรมการเรียน เมื่อนักเรียนได้ร่วมเล่นการละเล่นระยะเวลาดำเนินงาน
2 กันยายน 2562 ถึง 27 กันยายน 2562ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
นักเรียนร้อยละ 95 มีพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ และมีผลการเรียนที่สูงขึ้นทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
คะแนน:
1
2
3
4
5
จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 34,800.00 บาท
คะแนน:
1
2
3
4
5
คะแนน:
1
2
3
4
5
คะแนน:
1
2
3
4
5
project version 4.4.01 release 2022-02-13. ช่วยเหลือ